เว็บดรุณาราชบุรี
วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2562
วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2561
EIS
“Emoticon” ถือกำเนิดมาจากการประยุกต์เอาตัวอักษรมาสร้างเป็นหน้าตา หรือ ท่าทางต่างๆ เพื่อแสดงอารมณ์ของผู้สนทนาบนโปรแกรมสนทนาทันที (Instant Messaging Program / IM / Messenger) อีเมล์ (E-mail) เว็บไซต์ (Website) หรือ แม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือ (Mobile / Cell phone) ต่างๆ ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างความบันเทิง (Entertainment) บนโลกอินเตอร์เน็ต (Cyber world) ได้อย่างมาก โดยคำว่า “Emoticon” นั้นมาจากการผสมผสานระหว่างคำว่า “Emotion (อารมณ์)” และ “Icon (สัญลักษณ์)” เข้าด้วยกัน โดยให้ความหมายใหม่ว่า “สัญลักษณ์สื่ออารมณ์”
เอาละหลายคนคงทราบดีแล้วว่าไอ้เจ้าตัว Emoticons นั้นมีมากมายหลายอารมณ์จริงๆ ไม่ว่าจะ สุข เศร้า เหงา ซึม แต่รู้กันบ้างรึเปล่าว่า อารมณ์ไหนพิมพ์กันยังไงและมีความหมายในภาษาอังกฤษว่าอย่างไรบ้าง…พร้อมแล้วก็มาดูกันเลย!!
Smiley (หน้ายิ้ม) or Happy Face (หน้าตามีความสุข):-) :) :o) :D :] :3 :c) :> =] 8) =) C: (^_^) (^-^) (^ ^) (^.^) (n_n)
Laughing (หัวเราะ) or Big grin (ยิ้มยิงฟัน, ยิ้มแฉ่ง)
:-D :D XD 8D =D =3
:-D :D XD 8D =D =3
Smiling / Kitty face (แมวยิ้ม / ทำหน้าแมว):3 =^__^=
Rocker Smiley (ยิ้มแบบขาร็อค)
\m/*.*\m/
\m/*.*\m/
Super Happy (มีความสุขสุดขีด)X3
Crying (ร้องไห้)
(;_;) (T_T) (T~T) (T-T) (ToT) (T^T) (Y_Y)
Crying (ร้องไห้)
(;_;) (T_T) (T~T) (T-T) (ToT) (T^T) (Y_Y)
Disappointed (ผิดหวัง), Bitter (ขมขื่น)
(._.) (,_,)
(._.) (,_,)
Frown (หน้าบึ้ง, ขมวดคิ้ว), Angry (โกรธ)
:-( :( :c :< :[ =[
Skeptical (สงสัย), Annoyed (เคือง), Undecided (ลังเล), Uneasy (หงุดหงิด)
:-/ :/ :\ =/ =\ :S (>_>) (¬_¬) (v_v) (u_u)
:-/ :/ :\ =/ =\ :S (>_>) (¬_¬) (v_v) (u_u)
Angry (โกรธ), Mad (คลั่ง, ฉุน)
D:< >:( D-:< >:-( :-@ ;( >:O >=O `_´ D<
D:< >:( D-:< >:-( :-@ ;( >:O >=O `_´ D<
Upset (อารมณ์เสีย)(-_-) (.__.)
Screw you (ช่างหัวคุณ)(t>.
Dead (เสียชีวิต), Unconscious (สลบ, ไม่ได้สติ)(X_X) x_x
Kiss (จูบ, หอม):-* :* ;* (^3^)
Love (รัก), Heart (หัวใจ)
Love (รัก), Heart (หัวใจ)
<3
Lots of hearts (หัวใจหลายดวง)
<333
<333
Rose (ดอกกุหลาบ)
@}-;-'---
@}-;-'---
Licking chops / lips (เลียปาก)
:-9
:-9
Wink (ขยิบตา);-) ;) *) ;] ;D (~_^) (^_~) ~.^ ^.~
Rolling eyes (กลอกลูกตา)
&_&
&_&
Sticking out tongue (แลบลิ้น), Cheeky/Playful (ทะเล้น, ขี้เล่น)
:-P :P :-p :p =p =P :-Þ :Þ :-b :b
:-P :P :-p :p =p =P :-Þ :Þ :-b :b
Backwards cap / Wearing a cap backwards (สวมหมวกกลับหลัง)
d:-)
Wearing shades and a cap backwards (สวมแว่นตากันแดด และหมวกกลับหลัง)qB-)
Drooling (น้ำลายไหล)
:)~
Evil (ชั่วร้าย)
>:) >;) >:D }:-> B)
>:) >;) >:D }:-> B)
Wearing shades (สวมแว่นตากันแดด)B) B-) 8) 8-)
Oh crap! (ปัดโธ่!)
(>_<) (>.<)
Punched in the face (โดนชกหน้า)
x_O
x_O
Sleeping (หลับ)
[(--)]ZZzzz...
[(--)]ZZzzz...
Listening to music (กำลังฟังเพลง)
d^_^b d-_-b
d^_^b d-_-b
Singing (ร้องเพลง), Laughing (หัวเราะ)
(^o^)
(^o^)
Having a snack (กำลังกินขนมขบเคี้ยว)
<(^.^)>#
<(^.^)>#
Surprised (ประหลาดใจ), Shocked (ตกใจ)
:-O :O 8O
Confused (สับสน)@.@ @_@
:-O :O 8O
Confused (สับสน)@.@ @_@
Nervous (หวาดกลัว), Embarrassed (เขินอาย), Sweat drop (เหงื่อตก)
(^_^')
Straight face (ใบหน้าเฉยเมย)
Straight face (ใบหน้าเฉยเมย)
:| =|
Sealed lips (ปิดปากเงียบ), Embarrassed (เขินอาย)
:-X :X =X =x :-# :#
:-X :X =X =x :-# :#
Angel (เทวดา, นางฟ้า)
O:-) 0:3 O:)
O:-) 0:3 O:)
Thumbs up (ยกนิ้วให้)
d(>w<)b
Thumbs down (ห่วย, แย่ . ไม่เห็นด้วย)q(;^;)p
Dead (เสียชีวิต), Unconscious (สลบ, ไม่ได้สติ)(X_X) x_x
Surprised (ประหลาดใจ), Disbelief in.. (ไม่เชื่อ)
0.o O_o o_O @_@ O_O
Blushing (หน้าแดง, ขวยเขิน), Embarrassed (เขินอาย)
^///^ >///< >///> o///o -///- =///=
What? (อะไร)
O?O
^///^ >///< >///> o///o -///- =///=
What? (อะไร)
O?O
หวังว่านอกจากชาวเด็กอิงก์จะได้สนุกกับ emoticons ต่างๆแล้ว คงจะได้เรียนรู้อารมณ์ต่างๆในภาษาอังกฤษไม่มากก็น้อย เพราะจุดประสงค์ของบทความนี้จริงๆแล้ว ก็เพื่อสอนทุกคนให้รู้จักถึงอารมณ์ต่างๆในภาษาอังกฤษในรูปแบบที่สนุกสนานนั่นเอง
ยังไงช่วงนี้ก็ขอฝากทุกคนสอดส่องเว็บไซต์ต่างๆที่จ้องจะ "ขโมยบทความ" ต่างๆที่พี่จิวเขียนขึ้นเองทั้งหมดไปโดยไม่ได้รับอนุญาติ และมิหนำซ้ำบางเว็บไซต์อ้างอิงอีกด้วยว่าเป็นบทความที่ตัวเองแต่งเองอีกด้วย (มันน่า..มั้ย อิอิ)
เอาเป็นว่าใครมีเบาะแส รบกวนแจ้ง "พี่จิว" ที่มุม shoutboux เลยนะครับ ใครจับผู้ร้ายได้ เดี๋ยวมีรางวัลให้ (มั้ง) :P
วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2561
พละ
อสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ
( Health – Related Physical Fitness)
ความสามารถของระบบต่างๆ ในร่างกายประกอบด้วย ความสามารถเชิงสรีรวิทยาด้านต่างๆ ที่ช่วยป้องกันบุคคลจากโรคที่มีสาเหตุจากภาวะการขาดการออกกำลังกาย นับเป็นปัจจัยหรือตัวบ่งชี้สำคัญของการมีสุขภาพดี ความสามารถหรือสมรรถนะเหล่านี้ สามารถปรับปรุงพัฒนาและคงสภาพได้ โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพมีองค์ประกอบ ดังนี้
1. องค์ประกอบของร่างกาย (Body Composition) ตามปกติแล้วในร่างกายมนุษย์ประกอบ ด้วย กล้ามเนื้อ กระดูก ไขมัน และ ส่วนอื่นๆ แต่ในส่วนของสมรรถภาพทางกายนั้น หมายถึง สัดส่วนปริมาณไขมันในร่างกายกับมวลร่างกายที่ปราศจากไขมัน โดยการวัดออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ไขมัน
2. ความอดทนของระบบไหลเวียนเลือด (Cardiorespiratory Endurance) หมายถึง สมรรถนะเชิงปฏิบัติของระบบไหลเวียนเลือด (หัวใจ หลอดเลือด) และระบบหายใจในการลำเลียงออกซิเจนไปยังเซลล์กล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายสามารถยืนหยัดที่จะทำงานหรือออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่เป็นระยะเวลายาวนานได้
3. ความอ่อนตัวหรือความยืดหยุ่น (Flexibility) หมายถึง พิสัยของการเคลื่อนไหวสูงสุดเท่าที่จะทำได้ของข้อต่อหรือกลุ่มข้อต่อ
4. ความอดทนของกล้ามเนื้อ (Muscular Endurance) หมายถึง ความสามารถของกล้ามเนื้อมัดใดมัดหนึ่งหรือกลุ่มกล้ามเนื้อ ในการหดตัวซ้ำๆ เพื่อต้านแรงหรือความสามารถในการหดตัวครั้งเดียวได้เป็นระยะเวลายาวนาน
5. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Muscular Strength) หมายถึง ปริมาณสูงสุดของแรงที่กล้ามเนื้อมัดใดมัดหนึ่งหรือกลุ่มกล้ามเนื้อสามารถออกแรงต้านทานได้ ในช่วงการหดตัว 1 ครั้ง
ครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดแต่ละองค์ประกอบของสมรรถภาพทางกาย
1. ความแข็งแรง ใช้เครื่องมือไดนาโมมิเตอร์ ,ฟรีเวท ,หรือเครื่องมือไอโซคิเนติก
2. พลัง ใช้เครื่องวัดยืนกระโดดสูง แผ่นยางยืนกระโดดไกล
3. ความทนทานของระบบไหลเวียนโลหิต ใช้จักรยานวัดงาน การวิ่ง 3.2 กิโลเมตร วิ่ง 12 นาที และ สเตปเทส 3 นาที
4. ความทนทานของระบบกล้ามเนื้อใช้การดึงข้อ ดันพื้น Sit-up
5. ความเร็วใช้การวิ่ง 15 ถึง 50 เมตร
6. ความอ่อนตัว ใช้เครื่องมือวัดการยืนหรือนั่งงอตัว
7. ความคล่องตัวใช้การวิ่งเก็บของระยะทาง 10 เมตร
สมรรถภาพกลไก ( Motor Fitness) หรือ
สมรรถภาพเชิงทักษะปฏิบัติ
(Skill – Related Physical Fitness)
ความสามารถของร่างกายที่ช่วยให้บุคคลสามารถประกอบกิจกรรมทางกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นกีฬาได้ดี มีองค์ประกอบ 6 ด้าน ดังนี้
1. ความคล่อง (Agility) หมายถึง ความสามารถในการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและสามารถควบคุมได้
2. การทรงตัว (Balance) หมายถึง ความสามารถในการรักษาดุลของร่างกายเอาไว้ได้ทั้งในขณะอยู่กับที่และเคลื่อนที่
3. การประสานสัมพันธ์ (Co-ordination) หมายถึง ความสามารถในการเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น กลมกลืน และ มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการทำงานประสารสอดคล้องระหว่างตา-มือ-เท้า
4. พลังกล้ามเนื้อ (Power) หมายถึง ความสามารถของกล้ามเนื้อส่วนหนึ่งส่วนใดหรือหลายๆ ส่วนของร่างกายในการหดตัวเพื่อทำงานด้วยความเร็วสูง แรงหรืองานที่ได้เป็นผลรวมของความแข็งแรงและความเร็วที่ใช้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เช่น การยืนอยู่กับที่ กระโดดไกล การทุ่มน้ำหนัก เป็นต้น
5. เวลาปฏิกิริยาตอบสนอง (Reaction time) หมายถึง ระยะเวลาที่ร่างกายใช้ในการตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่างๆ เช่น แสง เสียง สัมผัส
6. ความเร็ว (Speed) หมายถึง ความสามารถในการเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
สมรรถภาพเฉพาะด้านที่สำคัญและนักกีฬาต้องการ
ประกอบด้วย
1. พลังระเบิด (Explosive Power)
2. กำลังความเร็ว (Power Speed)
3. การปรับเร่งความเร็ว (Acceleration Speed)
4. ความเร็วสูงสุด (Maximum Speed)
5. ความเร็วอดทน (Speed Endurance)
6. ความแข็งแรง (Strength)
7. ความอดทน (Endurance)
8. ปฏิกิริยาการเคลื่อนไหว (Movement Time)
9. การประสานงาน ฯ (Co-ordination)
10. ความอ่อนตัว (Flexibility)
11. ความคล่องแคล่วว่องไว (Agility)
12. ความแม่นยำ (Accuracy)
13. การทรงตัว (Balance)
โรคที่เกิดจากการขาดการออกกำลังกาย
โรคอ้วน
ผลที่ตามมาของการมีไขมันส่วนเกิน หรือโรคอ้วนที่สำคัญได้แก่
u โรคหัวใจ
u โรคความดันโลหิต และเส้นเลือดแตกในสมอง
u โรคเบาหวาน (80 % ของคนที่เป็นโรคเบาหวานเนื่องมาจากคนที่มีน้ำหนักเกิน)
u โรคเกี่ยวกับไต
u โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี
u โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
u ทำให้มีความยุ่งยากในการผ่าตัด
u โรคที่เกี่ยวกับข้อต่อ
u โรคมะเร็ง
u โรคเกี่ยวกับความเข้มข้นของน้ำเหลือง
u โรคเกี่ยวกับประจำเดือน
u โรคที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตและบุคลิกภาพ
การทำแผนการฝึกซ้อมที่ดี
u การอบอุ่นร่างกายและการคลายอุ่น ( COOL DOWN) ที่ถูกต้อง
u ความพร้อมของสมรรถภาพทางกายและจิตใจ
u ระดับความยากของทักษะที่เหมาะสม
u เชื่อฟังในกฎและระเบียบ
u โภชนาการที่พอเหมาะ
u สิ่งแวดล้อมของสนามฝึกซ้อมและสนามแข่งขันที่เหมาะสม
u เสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่เหมาะสม
u ไม่เหนื่อยล้าจนเกินไป
u ความหนักของการฝึกบวกกับเวลาพักสอดคล้องกัน
ระดับของอัตราการเต้นชีพจรที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการฝึก ประกอบด้วย
1. ระดับที่มีการเผาผลาญไขมันในร่างกาย
r ความหนัก 50-60 % Max. HR.
2. ระดับที่ช่วยรักษาสุขภาพและหัวใจให้แข็งแรง
r ความหนัก 60-80 % Max. HR.
3. ระดับที่ช่วยพัฒนาระบบการทำงานแบบใช้ออกซิเจน
r ความหนัก 70-85 % Max. HR.
1. ระดับที่ช่วยพัฒนาระบบการทำงานแบบไม่ใช้ออกซิเจน
r ความหนัก 80-90 % Max. HR.
2. ระดับที่ต้องระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดกับร่างกาย
r ความหนัก 90-100 % Max. HR.
สุขศึกษา
ต่อมไร้ท่อ(ENDOCRINE GLAND) หมายถึงต่อมไม่มีท่อ สิ่งที่หลั่งจากต่อมเหล่านี้เข้าสู่กระแสเลือดไหลเวียนโดยตรง ไม่ต้องผ่านท่อ ดังนั้นเซลล์ของต่อมไร้ท่อจะสัมผัสกับหลอดเลือดฝอยภายในต่อมอย่างใกล้ชิด ต่อมเหล่านี้จึงมีเลือดมาเลี้ยงอย่างมากมายต่อมเดียวกันอาจมีทั้งต่อมไร้ท่อและต่อมมีท่ออยู่ด้วยกัน เช่น ตับอ่อนหลั่งน้ำย่อยผ่านท่อไปสู่ดูโอดีนัม และขณะเดียวกันกลุ่มเซลล์ของตับอ่อน(ISLETS OFLANGERHANS)ก็หลั่งฮอร์โมนสู่กระแสเลือดโดยตรง อัณฑะก็สร้างตัวอสุจิผ่านออกไปทางท่อ แต่ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มเซลล์เลย์ดิก(CELLS OF LEYDIG) สร้างฮอร์โมนเพศสู่กระแสโลหิต
ต่อมไร้ท่อสร้างสารเคมีซึ่งมักจะเรียกว่า ฮอร์โมน(HORMONES) ซึ่งจะไปควบคุมหรือดัดแปลงสมรรถภาพของเซลล์ของ อวัยวะเป้าหมาย(TARGET ORGAN) ผลของมันอาจไปกระตุ้นหรือยับยั้งก็ได้
1. ต่อมใต้สมอง (PITUITARY GLAND)
2. ต่อมไทรอยด์ (THYROID GLAND)
3. ต่อมพาราไทรอยด์ (PARATHYROID GLAND)
4. ตับอ่อน (PANCREASE)
5. ต่อมหมวกไต (ADRENAL GLAND)
6. ต่อมเพศ (GONAD)
7. ฮอร์โมนจากรก
8. ต่อมเหนือสมอง (PINEAL GLAND)
9. ฮอร์โมนจากไอส์เลตออฟแลงเกอร์ฮานส์
1.ต่อมใต้สมอง
ผลิตฮอร์โมนที่สำคัญ เช่น
1) Growth Hormone เป็นฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกาย โดยเฉพาะ กระดูกและกล้ามเนื้อ
2) Thyroid Stimulating Hormone เป็นฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้สร้าง ไทร็อกซินเพิ่มขึ้น
3) Gonadotrophic Hormone เป็นฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างเซลล์สืบพันธุ์
4) Antidiuretic Hormone เป็นฮอร์โมนช่วยในการดูดน้ำกลับของท่อไต เพื่อรักษา ระดับน้ำของร่างกาย
5) Melatonin เป็นฮอร์โมนกระตุ้นให้เซลล์เม็ดสีสร้างเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น
2.ต่อมไทรอยด์
ผลิตฮอร์โมนที่สำคัญ คือ ไทร็อกซิน โดยใช้ไอโอดีนเป็นวัตถุดิบในการ สร้างฮอร์โมน ซึ่งฮอร์โมนไทร็อกซินมีหน้าที่สำคัญ ดังนี้
1) ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูก สมอง และระบบประสาท
2) ช่วยในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเมื่อเป็นผู้ใหญ่
3) ช่วยควบคุมอัตราเมตาบอลิซึมในร่างกาย
3.ต่อมพาราไทรอยด์
ผลิตฮอร์โมนที่สำคัญชื่อ พาราธอร์โมน ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการ ควบคุมเมตาบอลิซึมของแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกาย การสร้างกระดูกและควบคุมบทบาท ของวิตามินดีในร่างกาย โดยวิตามินดีจะรวมกับฮอร์โมนพาราธอร์โมนในการสลายแคลเซียมออก จากกระดูกเพื่อรักษาระดับปกติของแคลเซียมในพลาสมา
3.ตับอ่อน
ลักษณะเป็นต่อมขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางด้านหลังของกระเพาะอาหาร ใกล้กับลำไส้เล็กส่วนดูโอดินัม ซึ่งเป็นลำไส้เล็กส่วนต้น ส่วนที่เป็นต่อมไร้ท่อ จะผลิตฮอร์โมนที่สำคัญ ดังนี้
1อินซูลิน เป็นฮอร์โมนที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง โดยช่วยให้กลูโคสผ่าน เข้าเซลล์และเปลี่ยนส่วนหนึ่งเป็นไกลโคเจนเก็บไว้ที่ตับ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับ ปกติ
2กลูคากอน เป็นฮอร์โมนที่ทำงานตรงข้ามกับอินซูลิน คือ ทำให้ระดับน้ำตาลใน เลือดสูงขึ้น
4.ต่อมหมวกไต ( adrenal gland )
เป็นก้อนสีเหลืองๆ อยู่เหนือไตข้างละ 1 ต่อม
ต่อมหมวกไตในผู้ใหญ่ประกอบด้วยต่อมไร้ท่อ 2 ต่อม คือต่อมหมวกไตส่วนนอกเจริญมาจากเซลล์มีเซนไคมาส (mesenchymas) ของชั้นมีโซเดิร์มของตัวอ่อน ต่อมหมวกไตส่วนในเจริญมาจากเซลล์ต้นกำเนิดเดียวกับเซลล์ประสาทในทารกต่อมหมวกไตจะมีขนาดใหญ่ แต่เนื่องจากขาดสารเร่งปฏิกิริยา จึงไม่สามารถสร้างฮอร์โมนเหล่านี้ได้ ผลิตได้แต่สารที่จะเปลี่ยนไปเป็นฮอร์โมนอีสโทรเจนที่รกแบ่ง ฮอร์โมนออกเป็น 3 กลุ่ม ที่สำคัญ คือ
1) Glucocorticoid hormone ทำหน้าที่ควบคุมเมแทบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต โดยเปลี่ยนไกลโคเจนในตับ และกล้ามเนื้อให้เป็นกลูโคส ในวงการแพทย์ใช้เป็นยาลดการอักเสบและรักษาโรคภูมิแพ้ ถ้ามีฮอร์โมนนี้มากเกินไป จะทำให้อ้วน อ่อนแอ หน้ากลมคล้ายดวงจันทร์ หน้าท้องลาย น้ำตาลในเลือดสูง
2) Mineralocorticoid hormone ทำหน้าที่ควบคุมสมดุลของน้ำและเกลือแร่ฮอร์โมนสำคัญกลุ่มนี้ คือ aldosterone ช่วยในการทำงานของไตในการดูดกลับ Na และ Cl ภายในท่อไต ถ้าขาด aldosterone จะทำให้ร่างกาย สูญเสียน้ำและโวเดียมไปพร้อมกับปัสสาวะ ส่งผลให้เลือดในร่างกายลดลง จนอาจทำให้ผู้ป่วยตาย เพราะความ ดันเลือด ต่ำ
3) Sex hormone ฮอร์โมนเพศช่วยควบคุมลักษณะทางเพศที่สมบูรณ์ทั้งชายและหญิง
4) อะดรีนัลเมดัลลา ( adrenal medulla ) เป็นเนื้อชั้นในของต่อมหมวกไต อยู่ภายใต้การควบคุมของ sympathetic ถูกกระตุ้นในขณะตกใจ เครียด กลัว โกรธ เนื้อเยื่อชั้นนี้จะทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน 2 ชนิด คือ
4.1) Adrenalin hormone หรือ Epinephrine hormone กระตุ้นให้หัวใจบีบตัวแรง เส้นเลือดขยายตัว เปลี่ยน glycogen ในตับให้เป็นกลูโคสในเลือด
4.2) Noradrenlin hormone หรือ Norepinephrine hormone กระตุ้นให้เส้นเลือดมีการบีบตัว ผลอื่นคล้ายๆ adrenalin แต่มีฤทธิ์น้อยกว่า
2) Mineralocorticoid hormone ทำหน้าที่ควบคุมสมดุลของน้ำและเกลือแร่ฮอร์โมนสำคัญกลุ่มนี้ คือ aldosterone ช่วยในการทำงานของไตในการดูดกลับ Na และ Cl ภายในท่อไต ถ้าขาด aldosterone จะทำให้ร่างกาย สูญเสียน้ำและโวเดียมไปพร้อมกับปัสสาวะ ส่งผลให้เลือดในร่างกายลดลง จนอาจทำให้ผู้ป่วยตาย เพราะความ ดันเลือด ต่ำ
3) Sex hormone ฮอร์โมนเพศช่วยควบคุมลักษณะทางเพศที่สมบูรณ์ทั้งชายและหญิง
4) อะดรีนัลเมดัลลา ( adrenal medulla ) เป็นเนื้อชั้นในของต่อมหมวกไต อยู่ภายใต้การควบคุมของ sympathetic ถูกกระตุ้นในขณะตกใจ เครียด กลัว โกรธ เนื้อเยื่อชั้นนี้จะทำหน้าที่สร้างฮอร์โมน 2 ชนิด คือ
4.1) Adrenalin hormone หรือ Epinephrine hormone กระตุ้นให้หัวใจบีบตัวแรง เส้นเลือดขยายตัว เปลี่ยน glycogen ในตับให้เป็นกลูโคสในเลือด
4.2) Noradrenlin hormone หรือ Norepinephrine hormone กระตุ้นให้เส้นเลือดมีการบีบตัว ผลอื่นคล้ายๆ adrenalin แต่มีฤทธิ์น้อยกว่า
5.ต่อมเพศ
ในชายได้แก่อัณฑะและในหญิงได้แก่รังไข่ซึ่งมีหน้าที่สำคัญ 2 อย่างคือ สร้างเซลสืบพันธ์และสร้างฮอร์โมน6.1ฮอร์โมนเพศชาย ที่สำคัญคือ เทสทอสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งจะทำหน้าที่หลายอย่างคือ
1) ควบคุมการเจริญเติบโตของอวัยวะสืบพันธ์
2) ทำให้อัตราการเจริญเติบโตของกระดูกเพิ่มขึ้น
3) กระตุ้นการสร้างโปรตีนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเอ็นไซม์
4) ควบคุมการหลั่งของฮอร์โมนเพศชาย
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2561
เทคโนโลยี
ภาษาจีน
คำศัพท์ | พินอิน | คำอ่าน | ความหมาย |
深蓝色 | shēnlánsè | เซินหลันเซ่อ | สีน้ำเงิน |
绿色 | lǜsè | ลวี่เซ่อ | สีเขียว |
浅绿色 | qiǎnlǜsè | เฉี่ยนลวี่เซ่อ | สีเขียวอ่อน |
白色 | báisè | ไป๋เซ่อ | สีขาว |
黑色 | hēisè | เฮยเซ่อ | สีดำ |
灰色 | huīsè | ฮุยเซ่อ | สีเทา |
蓝色 | lánsè | หลันเซ่อ | สีฟ้า |
红色 | hóngsè | หงเซ่อ | สีแดง |
粉红色 | fěnhóngsè | เฟิ่นหงเซ่อ | สีชมพู |
橙色 | chéngsè | เฉิงเซ่อ | สีส้ม |
黄色 | huángsè | หวงเซ่อ | สีเหลือง |
金色 | jīnsè | จินเซ่อ | สีทอง |
棕色 | zōngsè | จงเซ่อ | สีน้ำตาล |
紫色 | zǐsè | จื่อเซ่อ | สีม่วง |
银色 | yínsè | หยินเซ่อ | สีเงิน |
米黄色 | mǐhuángsè | หมี่หวงเซ่อ | สีกากี ออ |
วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
-
วัสดุ-อุปกรณ์ 1.ถุงเท้าขนาดเล็ก หรือถุงเท้าเด็ก (สีอะไรก็ได้ แต่ที่แนะนำคือมองดูสวย ดังนั้นควรจะเป็นสีสดหรือออกฉูดฉาด:นก แนะนำ) 2.ก...
-
ศาสนาคริสต์ การประกาศพระศาสนาของพระเยซูในระยะแรกประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเพราะคำสั่งสอนของพระองค์เป็นคำพูดที่เข้าใจง่าย เมื่...
-
อ สมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ ( Health – Related Physical Fitness) ความสามารถของระบบต่างๆ ในร่างกายประกอบด้วย ความสามารถเชิงสรีรวิทยาด...